พระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านการศึกษา ประจำ วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2568

      “การพัฒนาคนเป็นสิ่งสำคัญเท่ากับชาติ ถ้าไม่พยายาม พัฒนาคนให้อยู่ในสภาพที่อยู่ดีกินดี มีการศึกษา และอาชีพ คนก็ไม่สามารถพัฒนาชาติให้เจริญได้ การพัฒนาคนจึงเท่ากับการพัฒนาประเทศ ถ้าใครมีความสามารถที่จะเรียนรู้ได้สูงสุดแค่ไหน ก็ให้เขาเรียน ไปจนถึงที่สุด แต่คำว่าการศึกษานั้นไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ในโรงเรียนเสมอไปยังมีทางเลือกอีกหลายทาง ทั้งสายอาชีพ ทั้งการอบรม โดยผู้เชี่ยวชาญต่างๆ รวมทั้งการฝึกงานโครงการศิลปาชีพ” แนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วันที่ 11 สิงหาคม พุทธศักราช 2542 เป็นที่ประจักษ์ว่า
        สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงเป็นผู้วางรากฐานการศึกษา ทรงส่งเสริมด้านการศึกษา ด้วยทรงมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลมาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์อีกทั้ง ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาอยู่เนืองๆ ทรงตระหนักถึงความสำคัญว่า ผลของการศึกษาในวันนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคต พระราชทานทุนการศึกษา และส่งเสริมการพัฒนาความรู้ในด้านต่างๆ ทรงมีกระแสพระราชดำรัสด้วยความห่วงใยในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยของนักเรียน นิสิตนักศึกษา ว่าการศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติ เด็กไทยควรมีความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของประเทศชาติ ว่ามีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องและเปลี่ยนแปลงมาสู่ปัจจุบันได้อย่างไร
        สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานความเมตตาช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่ราษฎรที่มีบุตรมากและยากจน ซึ่งทรงพบทั่วไปในพระราชอาณาจักร ทรงห่วงใยราษฎรตามชนบทที่ขาดการศึกษาเป็นอย่างมาก และทรงมุ่งหวังที่จะให้ราษฎรไทยเป็นประชากรที่มีคุณภาพ พึ่งตนเองได้ ตลอดจนไม่ถูกหลอกลวงโดยผู้ที่มุ่งหวังเอารัดเอาเปรียบผู้ที่มีการศึกษาน้อย ดังนั้น เมื่อทรงมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรและทรงทราบว่าครอบครัวใดมีบุตรที่ยังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนแต่ครอบครัวนั้นไม่สามารถส่งบุตรให้ศึกษาต่อจากภาคบังคับได้ ก็จะพระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของครอบครัวนั้น 1 คน โดยพิจารณาเด็กที่มีความสามารถพอจะศึกษาให้จบอย่างน้อยหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งเป็นเกณฑ์เพื่อที่จะกลับมาเป็นที่พึ่งของครอบครัวในการทำมาเลี้ยงชีพ และส่งเสียให้สมาชิกครอบครัวรายอื่นๆ ได้รับการศึกษาต่อไป 
     สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีบทบาทในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านการศึกษาหลายรูปแบบ อาทิ ทรงพระอุตสาหะสอนหนังสือราษฎรด้วยพระองค์เอง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนการศึกษาแก่เยาวชนจากครอบครัวที่ยากจน ทั้งในระบบโรงเรียนและนอกโรงเรียน ทรงรับไว้เป็นนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์ส่วนบิดามารดา พี่น้องของเด็ก ก็โปรดเกล้าฯให้เข้ารับการฝึกอบรม พระราชทานความช่วยเหลือให้ปรับปรุงการประกอบอาชีพให้เป็นผล หรือให้มีความรู้เป็นอาชีพเสริมเพิ่มพูนรายได้ สามารถช่วยตนเองและครอบครัวให้ดำรงชีวิตเป็นสุขตามอัตภาพ โดยใช้วัตถุดิบพื้นบ้านมาทำประโยชน์ เช่น หัตถกรรมจักสานของโครงการหุบกะพง โครงการจักสานย่านลิเภา และทำเครื่องปั้นดินเผาในภาคใต้อีกทั้ง ยังโปรดเกล้าฯ ให้สอดแทรกเรื่องความรักชาติ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมการรักษาศิลปวัฒธรรมท้องถิ่น การรู้จักรักษาสุขภาพอนามัย การรู้จักพัฒนาตนเอง การเห็นความสำคัญของการศึกษาและการช่วยเหลือร่วมมือกับส่วนรวม พร้อมทั้งให้ทุกคนตระหนักว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของส่วนรวม ต้องบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์เพื่อความเจริญพัฒนาของภูมิภาค

        ทั้งนี้ พระมหากรุณาธิคุณมิได้แผ่ปกป้องเฉพาะปวงชนชาวไทย หากแต่ยังทรงแผ่ไปถึงประชาชนของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ชาวกัมพูชาอพยพลี้ภัยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในแดนไทย แถบจังหวัดตราด จันทบุรี และปราจีนบุรีมีพระราชศรัทธาและพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุข ผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยมิได้ทรงเลือกเชื้อชาติ ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์
       สถาบัน องค์กร มหาวิทยาลัยหน่วยงานต่างๆ จึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์โล่เฉลิมพระเกียรติ รางวัล และประกาศเกียรติคุณต่างๆ เป็นจำนวนมาก เช่น องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาติเอฟเอโอทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญเซเรส เทิดพระเกียรติในฐานะที่ทรงยกฐานะของสตรีให้มีระดับสูงขึ้น และทรงเป็นผู้ให้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2522ขณะที่มหาวิทยาลัยทัฟส์ แห่งรัฐแมสซาชูเซตส์สหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขามนุษยธรรม ในฐานะที่ทรงยกระดับฐานะการครองชีพของประชาชน และช่วยบรรเทาทุกข์ของเด็กๆ ในหมู่ผู้ลี้ภัย เมื่อปีพ.ศ.2523
       สหพันธ์พิทักษ์เด็กแห่งนครนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลบุคคลดีเด่นด้านพิทักษ์เด็ก เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2524, สถาบันเอเชียโซไซตี้ แห่งนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลด้านมนุษยธรรม เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2528 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2528, ศูนย์ศึกษาการอพยพ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครนิวยอร์ก กราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ไปทรงรับรางวัลความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยประจำปี ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2533 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองโบโรพุทโธ ในฐานะทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอนุรักษ์และพัฒนางานศิลปหัตถกรรมณ ศาลาธรรม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่30 มกราคม พ.ศ.2535, กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติคุณพิเศษในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา5 รอบ ในฐานะทรงอุทิศพระองค์ประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นผลให้แม่และเด็กนับล้านได้รับบริการขั้นพื้นฐานเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2535, กองทุนสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาสตรี ทูลเกล้าฯถวายรางวัลแห่งความเป็นเลิศในฐานะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาสตรีไทย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2535,มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ รัฐแมริแลนด์สหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขามนุษยธรรม เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2538,ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งอังกฤษได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมาชิกภาพกิตติมศักดิ์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2513 ซึ่งสถาบันแห่งนี้เคยมอบให้แต่เฉพาะผู้ที่เป็นแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นเป็นที่รู้จักระดับโลกเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีมหาวิทยาลัยและสถาบันอื่นๆ อีกมากมายที่ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญา และรางวัลประกาศกิตติคุณแด่พระองค์ ด้วยทรงสร้างคุณูปการมหาศาลแก่ปวงชนชาวไทยในทุกๆ ด้าน ทั้งทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจโดยไม่ทรงเห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิริยะอุตสาหะด้วยพระขันติธรรมอันเปี่ยมล้นไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณต่ออาณาประชาราษฎร์อย่างหาที่สุดมิได้







 โครงการฟาร์มตัวอย่าง (บนพื้นที่ราบ)

  เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2540 ณ บ้านขุนแตะ ตำบลดอยแก้ว อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ‘พระราชทานโอกาส’ ให้กับคนที่ ‘ไม่มีใครให้โอกาส’ อย่างชาวเขาที่เลิกยาเสพติดได้แล้ว และมาของานทำ ให้เป็นคนงานในฟาร์มตัวอย่าง ดำเนินการปลูกพืชผัก พันธุ์ไม้ผลชนิดต่าง ๆ และเลี้ยงปศุสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ หมู ปลา เป็นต้น

  ต่อมาก็เกิด ‘โครงการฟาร์มตัวอย่าง’ ในพื้นที่อื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยฟาร์มตัวอย่างแต่ละแห่งนั้น นอกจากจะเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ปลอดสารพิษให้แก่ชุมชนนั้น ๆ และชุมชนใกล้เคียง อย่างที่มีพระราชดำรัสว่า นี่แหละคือ ‘Food Bank’ แล้ว ฟาร์มตัวอย่าง ยังเป็นแหล่งจ้างแรงงานของชาวบ้านที่ยากจน ทำให้พวกเขามีรายได้ไปเลี้ยงครอบครัว และยังเป็นแหล่งให้วิชาความรู้แบบ ‘learning by doing’ เพื่อให้คนงานในฟาร์มฯ หรือผู้สนใจนำไปดำเนินการในที่ดินของตนเองได้ รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ช่วยกระจายรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่ง

  พื้นที่จัดตั้งโครงการฟาร์มตัวอย่างนั้น บางส่วนทรงจัดซื้อด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ บางส่วนชาวบ้านน้อมเกล้าฯ ถวาย และบางส่วนกรมป่าไม้อนุญาตให้ใช้พื้นที่

  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังมีพระราชดำรัสเรื่องการจ้างคนงานในฟาร์มตัวอย่าง เมื่อทรงทราบว่าผู้ดำเนินโครงการฯ จัดจ้างคนงานไว้น้อย เพราะเกรงว่าหากจ้างคนงานจำนวนมาก ขณะที่ยังมีผลผลิตทางการเกษตรน้อย จะทำให้ ‘ขาดทุน’ ไว้ว่า“…การที่ทำให้คนยากคนจนในชุมชนนั้น ๆ มีงานทำ พวกเขามีรายได้ มีเงินไปเลี้ยงครอบครัว ไม่ต้องไปเป็นโจร ไม่ต้องไปเป็นขโมย ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ไปตัดไม้ทำลายป่า ไม่ไปเผาป่า 

…ชุมชนนั้น ๆ ก็จะมีความสุข ความสงบ ตำบลนั้น อำเภอนั้น จังหวัดนั้น ๆ ก็จะมีความสุข ความสงบ ประเทศชาติก็จะมีความสุข ความสงบ นี่แหละคือ ‘กำไรของแผ่นดิน’…”





พระราชกรณียกิจ พระพันปีหลวง ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตา

และห่วงใยต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะผู้ประสบภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัย วาตภัย หรืออัคคีภัย
พระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์”
เพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงสนับสนุนการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครด้านการกู้ภัย

การดูแลฟื้นฟูจิตใจผู้ประสบภัย และทรงพระราชทานสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องนุ่งห่ม

และทุนทรัพย์แก่ผู้ประสบภัยด้วยพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้
เป็นแบบอย่างของการเสียสละเพื่อผู้อื่น และเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยทุกคนร่วมกันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

ในยามทุกข์ยาก “ใต้ร่มพระบารมี พระเมตตาแห่งพระพันปีหลวง แผ่ไพศาลถึงผู้ประสบภัยทั่วแผ่นดิน

ด้วยพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

เพื่อความผาสุกของพสกนิกรไทยทุกคน”


พระราชกรณียกิจ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2568 โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่แสดงถึงพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะทรงงานด้านการอนุรักษ์ป่าซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำเพื่อสนับสนุนการทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อช่วยให้พสกนิกรชาวไทยมีน้ำเพียงพอต่อการดำรงชีพและการทำการเกษตรโครงการตามพระราชดำริอันหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความใส่พระราชหฤทัยด้านการอนุรักษ์ป่าไม้และทรงห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่เป็นอย่างมากคือ‘โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่’ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นที่แรกที่บ้านห้วยไม้หก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2534 เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนที่ดินทำกิน ให้มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง พร้อมทั้งส่งเสริมให้ราษฎรได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้
🌳
⛰️อีกทั้งยังมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม